รับถมที่ดิน เขตท่าเรือแหลมฉบัง

ติดต่อเราได้เลยขอบคุณลูกค้าที่ใช้บริการ

 สนใจ ปรึกษาฟรี โทร/ไลน์ 0618792010

บริการเพิ่มเติมนอกจากรับถมที่ดิน.....

1.ขายหิน

2. ขายส่งทราย

3.เช่าแบ็คโฮ

4.รื้อถอน

5.เคลียริ่งพื้นที่ 

6.รับจ้างขนเศษวัสดุก่อสร้าง

ทำไมถึงควรเลือกเรา

✓ เรามีประสบการด้วยผลงานที่การันตรีจากลูกค้าเก่า

✓ ราคาถูกสมเหตุสมผลตามมาตฐานของดินแต่ละชนิด

✓ งานเสร็จตามสัญญาที่กำหนดมีความรับผิดสอบ

✓ มีการเก็บสต็อกดินในพื้นที่เขตท่าเรือแหลมฉบังจึงทำให้เราบริการลูกค้าด้วยความรวดเร็ว

✓ มีเครื่องมือที่ทันสมัย เหมาะสมกับงานและมีเครื่องมือสำรองกรณีฉุกเฉิน

✓ บริการดเวยความสุภาพ เรียบร้อย รวดเร็วเพื่อให้ผลงานเป็นตัวชี้วัดเพื่อให้ลูกค้าใช่บริการกับเราอีก

✓ ทางเราาไม่มีนโยบายเก็บเงินก่อนทำงานทุกกรณี

✓ เงินลูกค้าจ่ายตามที่เราตกลงกันตามสัญญา

วิธีการเลือกชนิดของดินในการถมที่ดินสร้างบ้าน

คำถามที่ลูกค้าถ้าบ่อยมากกว่า 80 เปอเซ็นที่เราพบตลอดการทำงาน รับถมที่ดินเขตท่าเรือแหลมฉบัง

จะสร้างบ้านสักหลังจะถมดินเราควรใช้ดินชนิดไหนดี ถึงจะทำให้บ้านไม่ทรุดตัว

ในที่นี้ขึ้นอยู่กับพื้นที่ถ้าที่ดินอยู่ในพื้นที่กรุงเทพ และ ปริมณฑล ใช้ดินดำ หรือ ดินถม ในการถมดินสร้างบ้านจะดีที่สุดครับ 
ทำ

ทำความรู้จักดินถมชนิดต่างๆ

ดินเหนียว เป็นดินที่มีเนื้อละเอียด มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ จึงทำให้ดินเหนียวเป็นดินที่มีการบดอัดยากกว่าดินชนิดอื่น ๆ เมื่อเวลาผ่านไป บ้านที่ใช้ดินเหนียวถมอาจเกิดการทรุดตัว ข้อดีของดินเหนียวคือหาซื้อง่าย ต้นทุนไม่สูง ส่วนใหญ่มักใช้ในโครงการบ้านจัดสรรเพราะต้องการควบคุมต้นทุนในการก่อสร้าง

ดินทราย เป็นดินที่ไม่อุ้มน้ำ มีต้นทุนในการถมไม่สูงมาก แต่เป็นดินที่จำเป็นต้องใช้การบดอัดให้แน่น เนื่องจากดินทรายจะประกอบด้วยทรายกว่า 70% เกิดการกัดกร่อนได้ง่ายหากอัดไม่แน่น และอาจเกิดปัญหาดินทรุดตัว ไม่เหมาะสำหรับการถมขึ้นกองเพราะดินทรายสามารถเคลื่อนตัวได้

ดินดานหรือดินซีแลค เป็นดินผสมทรายที่มีลักษณะแห้ง เหมาะสำหรับการใช้ถมที่ ถมถนน  หรือที่ดินที่อยู่บริเวณริมน้ำ เพราะสามารถบดอัดได้ดี ทำให้หน้าดินแน่น และสามารถใช้งานได้ทันที ข้อเสียคือมีราคาต้นทุนที่สูงกว่าดินชนิดอื่น ๆ

ดินลูกรัง เป็นดินที่มีลักษณะค่อนข้างแข็ง มีสีน้ำตาลแดง เหมาะสำหรับใช้ถมที่ดินทุกประเภทโดยเฉพาะทำถนนคอนกรีต มักใช้เป็น ฺBases ของการทำถนน เพราะบดให้อัดแน่นได้ดี ข้อเสียคือมีราคาต้นทุนที่สูง และหาซื้อยากเพราะไม่ได้มีอยู่ทั่วไป และที่สำคัญดินลูกรังไม่เหมาะแก่การปลูกต้นไม้หรือจัดสวน เพราะเป็นดินที่ไม่มีสารอาหาร ปลูกต้นไม้ยากนั่นเอง

หน้าดินหรือดินดำ เป็นดินที่อยู่บริเวณพื้นผิวดินด้านบน มีลักษณะสีดำ เนื้อละเอียดร่วนซุย ระดับความลึกต้องไม่เกิน 50 เซนติเมตร เป็นดินที่เหมาะกับการใช้ปลูกต้นไม้ เพราะมีสารอาหารเยอะกว่าดินชนิดอื่นๆ ทำให้ดินประเภทนี้มีต้นทุนสูง แต่ดินดำไม่เหมาะในการใช้ถมที่ลึก ๆ เพราะเป็นดินที่มีการย่อยสลาย อาจมีการขยับตัวทำให้บ้านทรุดได้ เหมาะกับการใช้เป็นหน้าดินหรือถมที่ในตอนสุดท้ายในกรณีที่ต้องการจัดสวน ปลูกต้นไม้ เพราะเป็นดินที่มีจุลินทรีย์สูง ปลูกต้นไม้ง่าย

การคำนวณ ถมดินสร้างบ้าน (มาตราวัดพื้นที่ไทย)

1 ไร่ = 4 งาน

1 งาน = 100 ตารางวา

ดังนั้น 1 ไร่ = 400 ตารางวา

1 ตารางวา = 4 ตารางเมตร = 2 เมตร x 2 เมตร

1 ตารางเมตร = 1 เมตร x 1 เมตร

ดังนั้น ที่ดิน 1 ไร่ จะเท่ากับ 1,600 ตารางเมตร

หมายเหตุ : การซื้อขายที่ดินในประเทศไทย จะซื้อขายเป็นตารางวา (ซึ่งจะเท่ากับ 4 ตารางเมตร) แต่การถมที่ดิน จะคำนวณการใช้ดิน เป็นลูกบาศ์กเมตร (คิวบิกเมตร หรือ ขนาด 1 x 1 x 1 เมตร)

ตัวอย่าง (การคำนวณขนาดพื้นที่)

พื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน 95 ตารางวา

1 ไร่ = 4 งาน =400 ตารางวา

2 งาน = 200 ตารางวา

ดังนั้น 1 ไร่ 2 งาน 95 ตารางวา = 400 + 200 + 95 = 695 ตารางวา

 ( หรือเท่ากับ 695 x 4 = 2,780 ตารางเมตร)

ตัวอย่าง ที่ 1

เนื้อที่กว้าง 20 เมตร ยาว 40 เมตร ต้องการถมเสริม 50 ซม.

หลังจากนั้น นำมาคูณกันทั้งหมด ( 20 เมตร x 40 เมตร x 0.5 เมตร ) = 400 คิว

ตัวอย่าง ที่ 2

เนื้อที่ 400 ตารางวา ต้องการถมสูง 1.5 เมตร

 พื้นที่ 1 ตารางวา เท่ากับ 4 ตารางเมตร

ดั้งนั้น ขนาด 400 ตารางวา จะเท่ากับ  1,600 ตารางเมมตร

จากนั้นนำมาคูณกัน (1,600 ตารางเมตร x 1.5 เมตร) = 2,400 คิว

พื้นที่ให้บริการรับถมที่ดินเขตท่าเรือแหลมฉบัง

ท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง เป็นท่าเรือน้ำลึกหลักในการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ ตั้งอยู่ในเขตเทศบาลนครแหลมฉบัง อำเภอศรีราชา และ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี อยู่ภายใต้การดูแลของการท่าเรือแห่งประเทศไทยในเรื่องการบริหารท่าเรือโดยรวม และมีเอกชนรับผิดชอบในเรื่องปฏิบัติการ เปิดดำเนินการท่าเทียบเรือ B1 เป็นท่าแรกเมื่อวันที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2534 โดยท่าเรือแหลมฉบังได้รับการสนับสนุนส่งเสริมจากรัฐบาลในการเป็นท่าเรือหลักของประเทศแทนท่าเรือกรุงเทพฯ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2539 ในปี พ.ศ. 2551 มีปริมาณขนถ่ายสินค้าทั้งสิ้น 4,629,244.70 เมตริกตัน มีปริมาณเรือเทียบท่ากว่า 8,118 ลำ

บริเวณโดยรอบท่าเรือแหลมฉบังได้รับการพัฒนาให้เป็นเขตเศรษฐกิจแหลมฉบัง ซึ่งมีการพัฒนาที่พักอาศัย สาธารณูปโภค การคมนาคมขนส่ง นิคมอุตสาหกรรม ตลอดจนศูนย์ราชการ เพื่อการพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจที่สำคัญในอนาคต

ท่าเรือแหลมฉบังยังเป็นท่าเรือที่นำนักท่องเที่ยวไทยเดินทางโดยเรือสำราญไปต่างประเทศ เส้นทางเดินเรือสำราญ อาทิ ท่าเรือแหลมฉบังไปประเทศกัมพูชา แวะเกาะฟู้โกว๊ก เข้าเกาะสมุย สิ้นสุดที่ท่าเรือแหลมฉบัง ท่าเรือแหลมฉบังแวะเกาะสมุยสิ้นสุดที่ประเทศสิงคโปร์ ท่าเรือแหลมฉบัง ไปยังท่าเรือฟูมาย เมืองนครโฮจิมินห์ ไปยังเมืองดานัง เมืองเซินเจิ้น และสิ้นสุดที่ฮ่องกง

ส่วนนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศรับจากประเทศสิงคโปร์เพียงประเทศเดียว โดยมีเส้นทางเรือสำราญ ประเทศสิงคโปร์แวะเกาะเรดัง (มาเลเซีย) และเกาะสมุย สิ้นสุดที่ท่าเรือแหลมฉบัง

ปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบังเป็นท่าเรือเดียวที่บริการนักท่องเที่ยวจากประเทศไทยไปประเทศสิงคโปร์และมีเส้นทางเดินเรือจากสิงคโปร์มาประเทศไทย